Last updated: 8 เม.ย 2562 | 1764 จำนวนผู้เข้าชม |
การเลือกซื้อข้อต่อทองเหลืองควรพิจารณาอย่างไร
1. คุณภาพวัตถุดิบต้องได้มาตรฐาน
a. ทองเหลืองที่ใช้ผลิตควรเป็นเกรด JIS H3250 C3604 , C3601 , C3602 เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ผู้ซื้อควรสอบถามและขอดูใบรับรองคุณภาพวัตถุดิบที่ใช้ผลิต เพราะถ้าเป็นวัตถุดิบทองเหลืองที่ไม่ได้มาตรฐาน จะมีผลต่อความแข็งแรง การทนแรงดัน และอายุการใช้งานที่สั้นลงมาก เนื่องจากอาจมีส่วนผลมของทองแดงน้องกว่าปกติ และปริมาณสังกะสีหรือโลหะอื่นๆ มากขึ้นเพื่อลดต้นทุน เมือมีสังกะสีมากหรือโลหะอื่นเจอปนมาก ตัวสังกะสีหรือเหล็ก จะถูกกัดกร่อนตามธรรมชาติได้เร็ว เมื่อใช้ไปสังกะสีในเนื้อทองเหลืองจะถูกกัดกร่อน จึงเกิดรูพรุนในเนื้อทองเหลืองจึงนำมาซึ่งการรั่วซึมหรือแตกหัก
***ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังมีspecเฉพาะที่ต้องระบุเพิ่มเติ่มเพื่อให้คุณภาพที่ดีที่สุด และสม่ำเสมอ เช่น กระบวนการอบคลาดความเคลียด กระบวนการตรวจสอบโพรงอากาศ และอื่นๆซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในโรงงานผลิตชิ้นส่วนที่ส่งให้บริษัทที่เน้นคุณภาพ เช่น mitsubishi หรือ daikin ซึ่งทางบริษัทเราก็specพิเศษนี้เช่นเดียวกัน
2. วิธีการที่ใช้ในการผลิต
a. ข้อต่อทองเหลืองที่มีลักษณะตรง ควรผลิตจากการนำทองเหลืองเส้นมากลึง ไม่ควรเลือกซื้อจากที่ใช้ทองเหลืองหล่อมากลึง เนื่องจากมีความหนาแน่นต่ำและเกิดรูพรุนในในเนื้อทองเหลือง และทนแรงดันและการขันเกลียวได้ต่ำ วิธีสั่งเกตุ ข้อต่อที่ใช้ทองเหลือหล่อ จะมีผิดที่หยาบ สีด้าน ไม่เงางามเหมือนที่ใช้ทองเหลืองเส้นมากลึง
b. ข้อต่อที่เป็นลักษณะข้องอ สามทาง สี่ทาง ควรผลิตจากกระกวนการปั๊ม ( Forging ) ไม่ควรใช้กระบวนการหล่อ หรือ die casting เนื่องจากมีความแข็งแรงต่ำ เมื่อใช้งานไปซักระยะจะรั่วได้ง่ายจากการถูกกัดกล่อนโดยธรรมดชาติ
**** ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้ผลิต ความทันสมัยของเครื่องปั๊ม ซึ่งข้อต่อทองเหลืองตรา TN GA ที่ผลิตจากเทิร์นนิ่ง ช็อป มีอัตราการแตก รั่ว น้อยกว่า 1 ใน 100,000 ตัว ***
3. ราคาเหมาะสมกับคุณภาพที่ได้รับ
4. การรับประกันสินค้าที่ดี
a. ควรซื้อสินค้าที่มียี่ห้อเป็นที่รู้จักกันในวงการ เช่น TN GA Kitz imperial Swagelok และให้การรับประกันสินค้ากรณีเกิดปัญหาในการใช้งาน ถ้าเป็นผู้ผลิตในประเทศ อาจจะสะดวกและรวดเร็วกว่าในการแก้ไข ให้คำปรึกษาและเคลมสินค้า
31 มี.ค. 2562